[รีวิว] Lazy Day The Resort - นอนพักชิล ๆ พร้อมชมวิวอาทิตย์ตกดิน ณ สุดเขตตะวันออกแห่งแผ่นดินสยาม

ฤดูร้อนมาเยือนประเทศไทยกันแล้ว ได้เวลา High Season ของชาว Makalius ที่รักทะเลทุกคนแล้ว ไหนใครอยากไปเที่ยวกันบ้างยกมือมาเล้ยยยย แอดคนนึงในที่นี่แล้วแหละที่อยากไปเที่ยวจนใจจะขาด รอบก่อนนู้นนน แอดพาทุกคนไปเกาะช้างที่จังหวัดตราด กันมาแล้วใช่มั้ย แต่รู้หรือไม่ว่า ณ สุดเขตแดนตะวันออกของไทยแลนด์บ้านเรานั้นยังมีอีกเกาะนึงที่น่าไปเที่ยวไม่แพ้กันเลย ซึ่งอยู่ระหว่างกลางเกาะช้างและเกาะกูดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกที่นึงเล้ย ใครพร้อมแล้วก็แพ็คกระเป๋าตามแอดมากันเลย

ขอต้อนรับทุกคนสู่ Lazy Day The Resort - เกาะหมาก

กราบสวัสดีสวีดัดชาว Makalius ที่น่ารักทุกคนอีกเช่นเคยน้า กลับมาพบกับแอดอีกแล้ว รอบนี้เราพากันมาไกลมากกกกกก ใช่แล้ว กลับมาจังหวัดตราดกันอีกแล้ว แต่รอบนี้มาเกาะใหม่กันแล้วกับเกาะหมาก รอบนี้แอดจะพาทุกคนมารีวิวกันที่ Lazy Day The Resort เป็นรีสอร์ทติดริมทะเลที่มีบรรยากาศสุดชิลล์ และวิวสวยไม่แพ้เกาะช้างเลย แต่กว่าจะเดินทางนั้นเป็นไงมาไงกันบ้างกว่าจะมาถึงเราไปพร้อมกันเลย Go!

เริ่มต้นการเดินทางโดยการขับรถกันมาจากกรุงเทพฯ ราว ๆ 5 ชั่วโมงกับระยะทาง 330 กิโลเมตร ผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี แล้วลงมาถึงจังหวัดตราด หรือใครจะเลือกนั่งเครื่องบินมาก็ได้ครับ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงถ้วน ๆ ในการนั่งเครื่อง และนั่งมาลงสนามบินในตัวจังหวัดตราดได้เลย โดยที่สเต็ปแรกก็คือการขึ้นเรือข้ามเกาะ ซึ่งเรือของทาง Lazy Day The Resort ที่เราต้องโดยสารนั้นต้องขึ้นที่ท่าเรือกรมหลวงชุมพร และได้ทำการนั่งเรือราว ๆ 1 ชั่วโมง เรียกได้ว่าหลับกันได้ตื่นนึงเลย เพราะระยะทางในการเดินทางนั้นค่อนข้างไกลกว่าเกาะช้างเท่าตัวเลยน้า ในส่วนของค่าโดยสารไป-กลับนั้นชาว Makalius ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีอยู่ในแพ็คเกจแล้วครับปังๆ

หลังจากที่เรือเทียบท่าแล้ว ทางรีสอร์ตก็จะส่งคนมาขับรถมารับเราเพื่อเดินทางไปยังรีสอร์ต ซึ่งก็มีการบริการยกกระเป๋าขึ้นรถให้กับแขกด้วย และแน่นอนว่าในส่วนของค่าโดยสารนั้นฟรีจ้า โดยใช้เวลาจากท่าเรือในการนั่งมาแค่ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งพอมาถึงหน้า Reception ของ Lazy Day The Resort แล้วก็จะมี Welcome Drink เย็น ๆ มาเสิร์ฟเป็นน้ำส้มน้า และที่พิเศษไปกว่านั้นคือเรายังได้เจอพนักงานต้อนรับสุดน่ารักของที่นี่ ซึ่งนั่นก็คือน้อง Lazy นั่นเอ้งงงง ตั้งชื่อตามรีสอร์ตกันเลย แถมยังเป็นมิตรขี้อ้อนมากด้วย เหล่าบรรดาทาสแมวถูกใจสิ่งนี้แน่นอน ซึ่งจุดเด่นของน้องคือมีหลากหลายลายในตัวเดียว จะเป็นวิเชียรมาศก็ไม่ใช่ หูเป็นสีแบบแมวสามสี แถมขาหน้าข้างนึงก็ยังใส่ถุงเท้าด้วย ตกลงแอดก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่าน้องเป็นแมวอะไรกันแน่

ก่อนจะไปห้องพักกัน แอดก็ได้ทำการเดินทัวร์บรรยากาศโดยรอบเพื่อที่จะเก็บภาพสวย ๆ มาให้ทุกคนได้ชมกัน ซึ่งในโซนที่ Proudly Present สุด ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นวิวริมทะเลนี่แหละทุกคน ถ้ามาในช่วงแดดออกเต็มที่สีน้ำทะเลจะสวยมาก ๆ เป็นสีครามเหมือนสีท้องฟ้าเลย แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนกันนะ นอกจากจะมีลมพัดโกรกตลอดเวลาที่นี่ยังมีร่มเงาต้นไม้เยอะมาก เดินได้ชิลล์ ๆ เย็นสบายทั้งวันเลย แถมนอกจากวิวทะเลที่แอดชอบแล้วในใจกลางรีสอร์ตยังมีต้นไม้ใหญ่ด้วย ซึ่งสวยมาก ๆ เหมาะกับการถ่ายรูปเลยน้าาาา

มารีวิวในส่วนของห้องพักกันบ้างดีกว่า โดยทาง Lazy Day The Resort นั้นก็มีห้องพักหลากหลายประเภทสำหรับลูกค้าชาว Makalius ได้เลือกกัน โดยหลัก ๆ บ้านพักจะเป็นสไตล์ Bungalow ริมทะเล โดยทุกหลังนั้นจะหันออกหาทะเลทั้งหมด โดยจะมีให้เลือกกันตั้งแต่ Sunset Twin Bungalow, Sunset Twin Extra Bungalow ที่เป็นตัวติดชายหาด, Lazy Bungalow และสุดท้ายกับ Sunset Single Bungalow โดยการตกแต่งภายในก็จะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ในส่วนของ Facility ที่จะได้รับจะเหมือนกันทุกห้องแน่นอนจ้า และนอกจากนี้ส่วนที่ต่างกันก็คือวิวด้านหน้าของบ้านแต่ละหลัง โดยส่วนตัวแล้วแอดยกให้บ้าน Sunset Single Bungalow สวยที่สุด เพราะด้านหน้าจะเป็นวิวริมทะเลที่เมื่อถึงเวลาอาทิตย์ตกจะเป็นหลังที่เห็นชัดที่สุดเล้ยยยยย

หลังจากที่เอาของไปเก็บกันแล้ว ท้องก็เริ่มหิวแล้ว โดยทาง Lazy Day The Resort ก็มีการเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้กับลูกค้า Makalius ด้วยน้าาา โดยเราสามารถเลือกเมนูได้เองอีกด้วยนะครับ แล้วสามารถบอกทางแม่ครัวได้ด้วยว่าเอารสจัดขนาดไหนก็ได้ โดยตอนมื้อกลางวันแอดก็ได้ลองสั่งทั้งมัสมั่นไก่ ยำไข่ดาว หมูผัดผงกะหรี่ และ หมึกผัดพริกแกง บอกเลยว่ารสจัดจ้านจัดเต็มถูกใจคนชอบกินรสเผ็ดแน่นอน

หลังจากทานจนอิ่มกันแล้วก็ได้เวลาเดินเล่นย่อยอาหารซึ่งรีสอร์ทก็มีพื้นที่ให้เดินชมวิวกันได้ตลอดตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นแนวต้นมะพร้าว ไปจนถึงชายหาดที่มีเปลขึงไว้ระหว่างต้นมะพร้าวริมหาด ก็สามารถไปนอนพักผ่อนรับลมทะเลเย็น ๆ และแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายกันได้เลยครับ โดยตลอดแนวหาดก็จะมีเปลแขวนไว้หลายหลังเลย สามารถเลือกได้ตามอรรธยาศัยกันได้น้า ชอบมุมไหนก็ไปนอนกันได้เลย นอกจากนี้แล้วทางรีสอร์ตยังมีบูทสปาไว้รองรับแขกด้วยน้า ใครปวดเมื่อยร่างกายก็สามารถมาใช้บริการในส่วนนี้ได้ด้วยยย

พอมาถึงยามเย็น พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าก็มาถึงในส่วนของกิจกรรมยามเย็นกันแล้ว โดยทางรีสอร์ตก็มีเรือคายัคไว้รองรับแขกทุกคนได้พายเล่นระหว่างชมวิวอาทิตย์ตกดินกันด้วยน้าาาา หรือจะมาเล่นน้ำยามเย็นก็ได้ น้ำเย็นสบาย แถมทรายยังนุ่มและละเอียดมากด้วย เดินแล้วสบายเท้ามาก ๆ เลยครับ แล้วเรายังสามารถไปล้างเท้ากันได้ที่ทางขึ้นบ้านโดยเขาจะมีก๊อกน้ำติดตั้งไว้หน้าบ้านอีกด้วยน้าาา

หลังจากเล่นน้ำพายเรือกันจนเหนื่อยกันมาพอแล้ว ท้องไส้ก็เริ่มเรียกหามื้อเย็นกันอีกแล้ว โดยทางรีสอร์ตก็มีเตรียมไว้ให้เช่นเดิมโดยเราก็สามารถเลือกเมนูได้เหมือนกัน แล้วยังคงเลือกระดับความเผ็ดได้เช่นกัน โดยในส่วนของรอบเย็นนี้ แอดได้สั่งทั้ง ยำทะเลรวม กุ้งผัดกระเทียม ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ต้มยำกุ้ง ฉู่ฉี่หมึก และปิดท้ายด้วยปลาสามรส ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้รสชาติดีมาก ๆ เลยแหละทุกคน รสจัดจ้านสมกับที่สั่งไปเลย แล้วยังสามารถสั่งเครื่องดื่ม Cocktail มาทานคู่กับมื้อเย็นได้ด้วยน้าา และหลังจากนี้ก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปพักผ่อนของพวกแอดกันแล้ว

พอถึงตอนเช้าวันใหม่ทางแอดก็ได้เก็บแพ็คของเพื่อจะเตรียมตัวเดินทางไปลงเรือกลับไปที่ฝั่งตราดกัน แต่ก่อนที่จะไปก็ขอทานอาหารเช้ากันก่อนจะขับรถกลับกรุงเทพกันยาว ๆ โดยอาหารเช้าของที่นี่จัดเต็มมากกกก มาเต็มแบบในรูปเลย โดยจะมีชุด English Breakfast ที่ประกอบไปด้วยไส้กรอกย่างแบบอังกฤษ เบค่อนย่าง มะเขือเทศทอด เห็ดแชมปิญอง ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศ ไข่ดาว ขนมปังทาเนย หรือจะสั่งเป็นเซ็ตไข่ขยี้หรือออมเล็ต ที่จะมาเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังปิ้งและเบค่อนเช่นกันจ้า และในส่วนที่แอดชอบมากที่สุดก็คือเขามีแพนเค้กให้ด้วย แพนเค้กชิ้นหนาขนาด 5 ชั้นซ้อนกันราดด้วยน้ำผึ้ง บอกเลยครับว่าเป็นปลื้มมมมม ม.ม้าล้านตัว

หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเราก็ได้ไปเก็บบรรยากาศของรีสอร์ตในยามเช้าอีกนิดหน่อยก่อนจะแพ็คของเพื่อขึ้นรถไปลงเรือเพื่อกลับบ้านกัน โดยจะมีเรือที่ออกจากเกาะในช่วงเช้าสองรอบคือรอบ 10.00 น. กับรอบ 11.30 น. และท่าเรือที่ต้องขึ้นก็จะเป็นคนละท่าเรือกัน ดูเวลากันด้วยนะครับ พลาดแล้วตกเรือแอดไม่รู้ด้วยน้าาาา

เป็นยังไงกันบ้างกับที่พักฟีลหาดส่วนตัวอีกที่หนึ่งแห่งจังหวัดตราด กับ Lazy Day The Resort Koh Mak น่าจะถูกใจชาว Makalius กันไม่มากก็น้อยด้วยบรรยากาศแบบสบาย ๆ วิวสุดสวยริมหาดยามเย็นของรีสอร์ตแห่งนี้ รอบหน้าแอดจะไปไหนก็อย่าลืมติดตามเพจและเว็บไซต์ของ Makalius ไว้กันด้วยน้าาา  เราจะมีรีวิวดี ๆ แบบนี้มาให้อ่านกันเสมอ และแน่นอน ที่เห็นมาทั้งหมด จะได้ครบทั้งหมดแบบนี้ เฉพาะโปรของ Makalius เท่านั้นนะ แอดไปรีวิวมาเอง ไม่จกตาแน่นอนจ้าาาา