
หลังจากที่เราออกไปชทความสวยงามของธรรมชาติบนบก ทั้งทะเล น้ำตก ภูเขา กันมาเยอะแล้ว คราวนี้เรามาดูความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเลกันบ้าง แต่เราไม่ต้องดำน้ำลงไปให้ตัวเปียก ไม่ต้องคอยดูพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกไหม เพราะเขารวบรวมความสวยงามของใต้ท้องทะเลเอามาไว้บนบกแล้ว และนี่ก็คือ "5 อควาเรียมในเอเชีย" ที่เราแนะนำอยากให้ไปเที่ยวกัน แต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แต่บอกเลยว่าทุกที่มีความสวยงามที่ไม่แพ้กันแน่นอน
? พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. (South East Asia Aquarium) ประเทศสิงคโปร์
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในโซนของ มารีน ไลฟ์ พาร์ค (Marine Life Park) ภายใน รีสอร์ท เวิลด์ เซนโตซ่า (Resorts World Sentosa) บนเกาะเซนโตซ่า ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลชนิดต่างๆกว่า 100,000 ตัว และมากถึง 800 สายพันธุ์อยู่ในแท็งก์ที่บรรจุน้ำมากกว่า 45 ล้านลิตร ภายในมีพื้นที่จัดแสดงสัตว์น้ำทั้งหมด 10 โซน และมีถิ่นที่อยู่อาศัยแตกต่างกัน 49 ชนิด โดยมีดาวเด่นของที่นี่คือปลากกระเบนราหูและฉลามหัวค้อน
ไฮไลท์ของที่นี่คืออควาเรียมยักษ์ในโซน โอเพ่น โอเชี่ยน (Open Ocean) ที่ทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังอยู่ใจกลางของก้นทะเล และสำหรับใครที่อยากใกล้ชิดเหล่าสัตว์ทะเลใต้น้ำ ที่นี่ก็มีห้องพักให้เราได้นอนหลับพักผ่อนไปพร้อมๆกับชมวิวของใต้ท้องทะเลในโซน Ocean Suites ซึ่งมีห้องพักให้เลือกหลายสิบห้องให้อารมณ์เหมือนเรากำลังนอนอยู่กลางท้องทะเลเลย
⏰ เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 19.00 น.
? ค่าเข้าชม : คลิกที่นี่
? วิธีการเดินทาง : คลิกที่นี่
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
? พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซูราอุมิ โอกินาว่า อควาเรียม (Okinawa Churaumi Aquarium) ประเทศญี่ปุ่น
อควาเรียมนี้ตั้งอยู่กลางทะเลทางเหนือสุดบนเกาะโอกินาวะ เป็นอควาเรียมที่หลายๆคนบอกว่าบรรยากาศดีและน่ามาเที่ยวมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 อควาเรียมแห่งนี้แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยเราจะเดินชมบรรยากาศภายในอควาเรียมด้วยการเริ่มจากชั้นบนก่อน แล้วค่อยๆไล่ลงมาสู่ชั้นล่าง เนื่องจากทางเข้าของพิพิธภัณฑ์อยู่ที่บริเวณชั้น 3 และทางออกอยู่บริเวณชั้น 1 โดยที่นี่มีตู้จัดแสดงความสวยงามของใต้ท้องทะเลมากถึง 77 ตู้
ไฮไลท์ของที่นี่คือ แท็งก์น้ำคุโรชิโอะ (Kuroshio Tank) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในแท็งก์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก สัตว์ที่อยู่ในแท็งก์น้ำนี้คือสัตว์ทะเลแถบโอกินาว่า ซึ่งในนั้นมีฉลามวาฬที่มีขนาด 8.5 เมตรและกระเบนราหู ดาวเด่นของอควาเรียมแห่งนี้ ที่นี่ยังมีบ่อน้ำที่เราจะได้ทดลองสัมผัสปลาดาวและหอยชนิดต่างๆ รวมไปถึงแท็งก์น้ำที่จัดแสดงสัตว์ที่อาศัยอยู่แนวปะการัง ฉลามสายพันธุ์ต่างๆ ที่นี่ยังเป็นศูนย์วิจัยปลาฉลามที่ให้ความรู้แบบละเอียดยิบ นอกจากนั้นยังมีการแสดงเต่าทะเลกับพะยูน และการโชว์ความสามารถของเจ้าโลมาแสนรู้ที่สระน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยการแสดงจะจัดเป็นรอบ และที่พิเศษเลยที่นี่ยังมีโซนของฝากที่ระลึกนารักๆให้เราเลือกซื้อกัน
⏰ เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.30 - 20.00 น. ส่วนในเดือนตุลาคม - เดือนกุมภาพันธ์ จะปิดเวลา 18.30 น.
? ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,850 เยน นักเรียนมัธยม 1,230 นักเรียนประถมและมัธยม 610 เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 6 ปี) เข้าฟรี
? วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัส Yanbaru Express bus จากสนามบิน Naha Airport ไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใช้เวลา 2 ชั่วโมง ค่ารถ 2,000 เยน (ให้บริการ 6 รอบต่อหนึ่งวัน)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
? พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชินเอโนะชิมะ (Enoshima Aquarium) ประเทศญี่ปุ่น
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่แห่งภูมิภาคคันโต อยู่ในจังหวัดคานากาวะ โดยด้านหลังของอควาเรียมคือทะเลที่มีหาดทรายเป็นสีดำ ตู้ปลาที่จัดแสดงสัตว์ใต้ทะเลก็มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนเลย ภายในตู้มีทั้งสัตว์น้ำทะเลจากอ่าว Sagami หรือมหาสมุทรแปซิฟิก รวมไปถึงเจ้าแพนกวินและเต่าทะเล
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือเหล่าแมงกะพรุน ที่คอยอวดโฉมความสวยงาม และบางโซนยังเปิดให้เราสามารถสัมผัสกับสัตว์น้ำได้โดยตรงด้วย แต่ถ้ามาที่นี่แล้วห้ามพลาดกับการแสดงของเหล่าโลมาแสนรู้ และการแสดงโชว์ภาพ 3D สุดยิ่งใหญ่
⏰ เวลาเปิดปิด : ช่วงเดือนมีนาคม - เดือนพฤศจิกายน เปิดเวลา 09.00 - 17.00 น. ส่วนในเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ จะเปิดเวลา 10.00 - 17.00 น.
? ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,100 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 1,500 เยน นักเรียนมัธยมต้นและประถม 1,000 เยน และเด็กอนุบาล 600 เยน
? วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Odakyu - Enoshima Line มาลงที่สถานี Katase - Enoshima จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
? พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า (Port of Nagoya Public Aquarium) ประเทศญี่ปุ่น
ใครที่ไปเที่ยวนาโกยาจะต้องแวะมาดูความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเลกันที่นี่ อควาเรียมนี้แบ่งออกเป็น 2 อาคาร ได้แก่ อาคารเหนือ ภายในอาคารนี้จะเป็นจุดชมการแสดงของวาฬเพชรฆาตและโลมาแสนรู้ และส่วนที่สองคืออาคารใต้ ภายในอาคารนี้จะจัดแสดงให้ชมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้ง 5 เขตในขั้วโลกใต้ โดยที่นี่เราจะได้พบกับฝูงปลาซาร์ดีนกลุ่มใหญ่ราว 30,000 ตัวที่แหวกว่ายไปมาเหมือนกับพายุหมุน สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึก เต่าทะเลตัวยักษ์ รวมไปถึงเหล่าปลาหลากหลายสายพันธุ์และหลากหลายสีสัน นอกจากนั้นยังมีโซนจำลองที่อยู่อาศัยของสัตว์ในแถบขั้วโลกใต้ของเจ้าเพนกวิน
⏰ เวลาเปิดปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.30 - 17.30 น. (ยกเว้นวันจันทร์)
? ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่และนักเรียนมัธยมปลาย 2,000 เยน นักเรียนมัธยมต้นและประถม 1,000 เยน และเด็กเล็ก 500 เยน
? วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Meiko Line มาลงที่สถานี Nagoyako จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
? พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า (Osaka Aquarium) ประเทศญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ชาวญี่ปุ่นจะเรียกกันว่า ไคยูคัง (Kaiyukan) ตั้งอยู่ใน Tempozan Harbor Village ใกล้กับอ่าวโอซาก้า โดยที่นี่จัดเป็นหนึ่งในอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อเสียงระดับโลกและได้ถูกจัดให้เป็นอควาเรียมที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นและเอเซียอีกด้วย การเข้าชมอควาเรียมแห่งนี้เราจะต้องเริ่มจากชั้นบนก่อน แล้วค่อยๆไล่ลงมาชั้นล่างสุด พอเดินมาถึงบริเวณทางเข้าก็จะมีบันไดเลื่อนพาเราขึ้นไปชั้นบนของอควาเรียมได้เลย โดยภายในอาคารจะมีการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลถึง 15 ตู้ และที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์น้ำเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ชิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ไม่มีกระดูกรวมถึงพืชพันธุ์ต่าง ๆ ด้วย โดยสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนี้มีมากถึง 30,000 ชีวิต ราวๆ 620 สายพันธุ์
ตู้จัดแสดงสัตว์ที่นี่มีขนาดใหญ่และลึกมาก โดยตู้นี้เราสามารถมองเห็นได้ทั่วทุกมุม โดยตู้โชว์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือ โซน Pacific Ocean หรือบริเวณ Central Tank ที่มีความลึกถึง 9 เมตร จุน้ำถึง 5,400 ลูกบาศก์เมตร โดยภายในตู้มีเจ้าฉลามวาฬตัวยักษ์ ดาวเด่นของที่นี่อยู่ด้วย นอกจากนั้นที่นี่ยังเปิดให้เราสัมผัสกับเจ้าปลากระเบนแบบใกล้ชิด นอกจากนั้นยังเปิดให้ชมการให้อาหารสัตว์น้ำเป็นรอบๆด้วย
⏰ เวลาเปิดปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 - 20.00 น.
? ค่าเข้าชม : อายุ 16 ปีขึ้นไป 2,300 เยน อายุมากกว่า 60 ปี 2,000 เยน อายุ 7-15 ปี 1,200 เยน อายุ 4-6 ปี 600 เยน และอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
? วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chuo Line มาลงที่สถานี Osakako จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 8 นาที
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
? ถ้าจองไม่ได้ หาโปรไม่เจอ ติดต่อเราตามช่องทางเหล่านี้เลยค่ะ
Line@: https://line.me/R/ti/p/%40makalius
Facebook Inbox: Makalius TH
Email: info@makalius.co.th
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
#เพื่อนพาเที่ยว #โปรดีบอกต่อ #รีบบอกแล้วรีบจองรึยัง #Shareวนไปหาใครสักคน #MakaliusTH #มาคาเลียส #ดีลท่องเที่ยว #ด่วน #แอร์เวย์ #Airways #แอร์ไลน์ #Airlines #Hotels #โรงแรม #เส้นทาง #ในประเทศ #ต่างประเทศ #ท่องเที่ยว #Travel #ตั๋วเครื่องบิน #AirTicket #เดินทาง #สายการบิน #สนามบิน #ราคาพิเศษ