
ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ใครหลายๆคนมักจะบอกว่า "เป็นประเทศที่มีที่ให้เที่ยวเยอะมากๆ แล้วแต่ละฤดูกาลก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน" เวลาที่ไปญี่ปุ่นหลายๆคนคงจะไปช็อปปิ้ง ไหว้พระ เที่ยวสวนสนุก แต่เราจะพาไป "ชมดอกไม้" กัน เพราะแต่ละฤดูกาลของที่นี่ก็จะมีดอกไม้ให้ชมไม่เหมือนกัน สำหรับใครที่พลาดชมความสวยงามของดอกซากุระไปแล้วในช่วงต้นปี ไม่ต้องกลัวววว เพราะครึ่งปีหลังแบบนี้ยังมีดอกไม้อีกหลายชนิดให้เราไปถ่ายรูปสวยๆกัน มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยจ้าาาา....
? ฟาร์ม โทมิตะ (Farm Tomita)
ถ้าใครมาเที่ยวฮอกไกโดจะต้องปักหมุดทุ่งดอกไม้แห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปแน่นอน ซึ่งดอกลาเวนเดอร์คือดอกไม้ที่นิยมปลูกกันมากในภูมิภาคฮอกไกโด โดยทุ่งดอกลาเวนเดอร์มีกระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองฟูราโน่ แต่เหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างๆหลั่งไหลมาชมความสวยงามของดอกไม้กันที่นี่คือ จุดชมวิวที่มีฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ (Tokachi Mountain) ซึ่งที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวและถ่ายรูปได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยใกล้ๆกับทุ่งดอกไม้นี้มีร้านกาแฟและร้านจำหน่ายสินค้าน่ารักๆที่เป็นผลิตภัณฑ์จากดอกลาเวนเดอร์อีกด้วย
? ช่วงที่เหมาะกับการมาชมดอกไม้
? ค่าเข้าชม : ฟรี
⏰ ช่วงเวลาเปิด - ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
? วิธีการเดินทางไปยังฟาร์มโทมิตะ
? ที่พักแนะนำ
ที่พักแห่งนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Furano 140 เมตร โดยห้องพักของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่ละห้องได้รับการตกแต่งแบบเรียบง่าย มีพื้นที่ใช้สอยที่กำลังดี โดยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Wi-Fi ทุกห้อง (ฟรี) รวมถึงพื้นที่ภายในโรงแรม อ่างแช่น้ำร้อน บริการรับฝากสัมภาระ บริการนวด บริการซักรีด
? สวนฮิตาชิ ซีไซด์ (Hitachi Seaside Park)
สวนแห่งนี้เป็นเป็นสวนริมทะเลขนาดใหญ่ อยู่ที่เมืองฮิตาชินากา (Hitachinaka) ในจังหวัดอิบารากิ โดยอยู่ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 130 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีบอกเลยว่าที่สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ชมดอกไม้ที่ "ห้ามพลาด" มากๆ เพราะไฮไลท์ของที่นี่ในช่วงนั้นก็คือ ทุ่งดอกโคเชีย (Kochia) หรือที่เรียกว่าช่วง Kochia Carnival ซึ่งอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคม โดยปกติดอกโคเชียจะมีสีเขียว แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงดอกไม้ของที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงที่เห็นแล้วสวยงามแปลกตา นอกจากนั้นยังมีดอกคอสมอสเบ่งบานอยู่ใกล้ๆกันอีกด้วย
? ช่วงที่เหมาะกับการมาชมดอกไม้ สวนนี้เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละช่วงก็จะมีดอกไม้ที่เบ่งบานอวดโฉมความสวยงามแตกต่างกัน
? ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 410 เยน / ผู้สูงอายุ 210 เยน / เด็ก 80 เยน
⏰ ช่วงเวลาเปิด - ปิด
? วันเปิดทำการ ปิดทุกวันจันทร์ แต่ถ้าตรงกับวันหยุดจะเลื่อนไปปิดวันอังคารแทน และปิดทุกวันที่ 31 ธันวาคม และ 1 มกราคม และในแต่ละฤดูกาลจะมีวันเปิดทำการ ดังนี้
? วิธีการเดินทางไปยังสวนฮิตาชิ ซีไซด์
สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ Ajigaura Station สาย Hitachinaka Kaihin Tetsudo จากนั้นให้เดินต่อไปอีกประมาณ 20 นาทีจะถึงประตูทางเข้าด้านทิศใต้ ถ้าเดินทางจากเมืองโตเกียวให้ไปที่สถานีรถไฟอูเอโนะ(Ueno Station) แล้วต่อรถไฟไปลงที่สถานี Katsuta Station สาย JR Joban ใช้เวลาประมาณ 70 นาที จากนั้นต่อรถไฟไปลงที่สถานี Ajigaura Station ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาที
? ที่พักแนะนำ
ห้องพักของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่ละห้องได้รับการตกแต่งแบบหรูหราและเรียบง่าย มีพื้นที่ใช้สอยที่กำลังดี โดยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Wi-Fi ทุกห้อง (ฟรี) รวมถึงพื้นที่ภายในโรงแรม แผนกต้อนรับ (24 ชั่วโมง) บริการทำความสะอาดรายวัน บริการรับฝากสัมภาระ โต๊ะปิงปอง ซาวน่า บริการนวด
? สวนดอกไม้คูจู (Kuju Hana Koen)
สวนดอกไม้นี้เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู ภายในสวนมีดอกไม้มากมายหลายชนิดที่จะเบ่งบานในแต่ละฤดูกาล ยกเว้นฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็น ดอกลาเวนเดอร์ บลูเบอร์รี่ ดอกทิวลิป ดอกทานตะวัน ดอกป้อปปี้ ดอกมอสสีชมพู โดยสวนนี้อยู่ที่บริเวณเชิงเขาบริเวณทิศใต้ของเทือกเขาคูจู (Kuju Mountain) ในจังหวัดโออิตะ การจัดวางดอกไม้ของสวนนี้จะเป็นการเอาดอกไม้ชนิดที่บานพร้อมๆกันมาไว้ด้วยกัน ทำให้เวลาที่ดอกไม้บานจะทำให้เกิดสีสันที่สวยงาม และยังมีเรือนกระจกที่จัดแสดงดอกไม้เมืองร้อนชนิดอื่นๆ รวมไปถึงร้านขายที่ระลึก ร้านขนม ร้านอาหาร และในวันเสาร์ - อาทิตย์จะมีชาวสวนท้องถิ่นนำสินค้าจากไร่ของตัวเองมาขายให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
? ช่วงที่เหมาะกับการมาชมดอกไม้ สวนนี้เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละช่วงก็จะมีดอกไม้ที่เบ่งบานอวดโฉมความสวยงามแตกต่างกัน
? ค่าเข้าชม : 1,300 เยน
⏰ ช่วงเวลาเปิด - ปิด : 08:30 - 17:30 น.
? วันเปิดทำการ : ปิดตั้งแต่ปลายเดือนธันวามคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
? วิธีการเดินทางไปยังสวนดอกไม้คูจู
การเดินทางที่ง่ายที่สุดคือการขับรถเที่ยวเอง เพราะไม่มีบริการรถสาธารณะมาที่สวนแห่งนี้ โดยสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ Bungo - Taketa Station จากนั้นให้ต่อแท็กซี่อีกประมาณ 30 นาทีมาที่สวน ค่าแท๊กซี่ประมาณ 6,000 เยน
? ที่พักแนะนำ
ห้องพักของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่ละห้องได้รับการตกแต่งที่มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีพื้นที่ใช้สอยที่กำลังดี โดยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Wi-Fi ทุกห้อง (ฟรี) รวมถึงพื้นที่ภายในโรงแรม บริการทำความสะอาดรายวัน ซาวน่า อ่างแช่น้ำพุร้อน อุปกรณ์ทำบาร์บีคิว ที่จอดรถ (ในที่พัก)
? ทุ่งดอกไม้ไซกะ โนะ ซาโตะ (Saika no Sato)
ทุ่งดอกไม้นี้เป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มซาซากิ (Sasaki Farm) ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด โดยที่นี่จะมีทุ่งดอกไม้หลายชนิดปลูกสลับกันไป เช่น ดอกป้อบปี้ ดอกลูปิน ดอกทานตะวัน และดอกซัลเวีย และไฮไลท์ของที่นี่คือความสวยงามของดอกลาเวนเดอร์ที่ออกดอกสีม่วงสวย โดยมีวิวของภูเขา Tokachidake และภูเขา Ashibetsudake อยู่ด้านหลัง และความพิเศษของที่นี่คือเราสามารถเก็บดอกลาเวนเกอร์แล้วเอากลับบ้านได้ด้วย สนนราคาอยู่ที่ 700 เยนต่อถุง
? ช่วงที่เหมาะกับการมาชมดอกไม้ สวนนี้เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละช่วงก็จะมีดอกไม้ที่เบ่งบานอวดโฉมความสวยงามแตกต่างกัน
? ค่าเข้าชม : ฟรี
⏰ ช่วงเวลาเปิด - ปิด : 08:00 - 17:30 น.
? วิธีการเดินทางไปยังทุ่งดอกไม้ไซกะ โนะ ซาโตะ
อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Naka - Furano Station สาย Furano ประมาณ 1 กิโลเมตร
? ที่พักแนะนำ
ห้องพักของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่ละห้องได้รับการตกแต่งที่มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีพื้นที่ใช้สอยที่กำลังดี โดยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Wi-Fi ทุกห้อง (ฟรี) รวมถึงพื้นที่ภายในโรงแรม บริการทำความสะอาดรายวัน ซาวน่า อ่างแช่น้ำพุร้อน อุปกรณ์ทำบาร์บีคิว ที่จอดรถ (ในที่พัก)
? สวนดอกไม้ฮานะคาอิโระ (Hanakairo Flower Park)
สวนนี้อยู่ที่เมืองโยนาโกะ ในจังหวัดททโทริ สวนดอกไม้ของที่นี่เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยที่นี่มีดอกไม้หลากหลายชนิดออกดอกอวดโฉมความสวยงามบนพื้นที่กว่า 310 ไร่ เห็นพื้นที่ใหญ่แบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินเมื่อย เพราะว่ามีรถรับส่งคอยให้บริการ โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 300 เยนต่อคน ความโดดเด่นของที่นี่อยู่ที่โดมขนาดใหญ่ที่ภายในจัดแสดงดอกกล้วยไม้ ดอกไม้น้ำ และดอกไม้จากยุโรป บอกเลยว่าสวนดอกไม้นี้เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดเวลาที่เราไปเที่ยวททโทริ
? ช่วงที่เหมาะกับการมาชมดอกไม้ สวนนี้เราสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของการมาเที่ยวที่นี่เลยก็คือช่วงเดือนกรกฎาคม - เดือนสิงหาคม ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และวันหยุดในฤดูร้อนช่วงเวลาหลัง 17.00 น. ของทุกๆวันเสาร์ - วันอาทิตย์ ที่นี่จะมีการจัดแสดงดอกไม้เรืองแสง โดยจะเรียกกันว่า แสงจันทร์สวนดอกไม้ (Moonlight Flower Garden)
? ค่าเข้าชม
⏰ ช่วงเวลาเปิด - ปิด
? วันเปิดทำการ : ทุกวันอังคารในเดือนธันวาคม - เดือนมีนาคม วันที่ 26-31 ธันวาคม
? วิธีการเดินทางไปยังทุ่งดอกไม้ไซกะ โนะ ซาโตะ
อยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Naka - Furano Station สาย Furano ประมาณ 1 กิโลเมตร
? ที่พักแนะนำ
ห้องพักของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบห้องพักธรรมดาและห้องพักแบบญี่ปุ่น แต่ละห้องได้รับการตกแต่งที่มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีพื้นที่ใช้สอยกำลังดี โดยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Wi-Fi ทุกห้อง (ฟรี) รวมถึงพื้นที่ภายในโรงแรม ซาวน่า อ่างแช่น้ำพุร้อน บริการรับฝากสัมภาระ รองเท้าแตะใส่ในห้องพัก ที่จอดรถ (ฟรี)
************************************************************
? ถ้าจองไม่ได้ หาโปรไม่เจอ ติดต่อเราตามช่องทางเหล่านี้เลยค่ะ
Line@: https://line.me/R/ti/p/%40makalius
Facebook Inbox: Makalius TH
Email: info@makalius.co.th
************************************************************
#เพื่อนพาเที่ยว #โปรดีบอกต่อ #รีบบอกแล้วรีบจองรึยัง #Shareวนไปหาใครสักคน #MakaliusTH #มาคาเลียส #ดีลท่องเที่ยว #ด่วน #แอร์เวย์ #Airways #แอร์ไลน์ #Airlines #Hotels #โรงแรม #เส้นทาง #ในประเทศ #ต่างประเทศ #ท่องเที่ยว #Travel #ตั๋วเครื่องบิน #AirTicket #เดินทาง #สายการบิน #สนามบิน #ราคาพิเศษ