ด่วนเลย! ปีใหม่นี้ บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ดาลัด-มุยเน่ ราคาไปกลับรวม 2,747 บาทเท่านั้น!!

ปีใหม่นี้ ใครไม่รู้จะไปเที่ยวไหนบ้างคะ?
บางคน... อยากไปสัมผัสอากาศหนาวที่เชียงใหม่แต่ก็กลัวเจอความวุ่นวาย
หรือบางคน... อยากไปเชียงรายแต่ก็กลัวเจอผู้คนมากมาย
วันนี้ Makalius ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบ อากาศดี๊ดี เรียกได้ว่า เป็นเมืองแห่งขุนเขา ได้บรรยากาศเหมือนไปยุโรป ที่สำคัญไม่ไกลจากบ้านเมืองเราด้วยค่ะ และยังเป็นเมืองแห่งการส่งออกกาแฟอันดับ 2 ของโลก... ใช่แล้วค่ะ เราจะพาคุณไปรู้จัก เมืองดาลัด เมืองที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย น่ารัก และขอแถม เมืองฮุยเน่ ด้วยนะคะ

ก่อนอื่น เรามาเริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบินก่อนดีไหมคะ...
ตอนนี้ เรามีสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่เมืองดาลัด ด้วยสายการบิน Vietjet Air สายการบินน้องใหม่ สัญชาติเวียดนาม สามารถจองตรงได้ที่ https://www.vietjetair.com/Sites/Web/th-TH/Home  หรือแอฟพลิเคชั่น Vietjet Air
หากใครต้องการบินไปสัมผัสอากาศหนาวช่วงวันหยุดปีใหม่ล่ะก็ แนะนำจองตั๋วตามนี้เลยค่ะ...
เลือกวันเดินทางไปวันที่ 1 ม.ค. 61 เดินทางจาก กรุงเทพฯ - ดาลัด เวลา 10.30-12.15 น. ราคาตั๋วแค่ 160 บาท
เลือกวันเดินทางกลับวันที่ 5 ม.ค. 61 เดินทางจาก ดาลัด - กรุงเทพฯ เวลา 12.55-14.40 น. ราคาตั๋วแค่ 160 บาท
(รวมค่าธรรมเนียม ค่าภาษีสนามบิน ราคาไป-กลับจะอยู่ที่ 2,747 บาท เท่านั้นค่ะ)

เอาล่ะค่ะ เมื่อมีตั๋วเครื่องบินแล้ว เราก็มารู้จักเมืองดาลัด เมืองแห่งขุนเขากันเลยดีกว่าค่ะ
ดาลัดเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ตอนบนของประเทศเวียดนาม จุดเด่นของเค้าคือเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงและถูกโอบล้อมไปด้วยทิวเขา ทะเลสาบ และป่าไม้ จึงทำให้ดาลัดเป็นเมืองที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 17 องศาเซลเซียสเท่านั้น และด้วยอากาศที่ดีและมีสภาพแวดล้อมที่สวยงามนี่เอง ดาลัดจึงได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิที่โรแมนติกที่สุดในเวียดนามใต้

• สวนพฤกษศาสตร์ดาลัด (Dalat Flower Gardens)
  นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองสุดโรแมนติกแล้ว ดาลัดยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองดอกไม้อีกด้วย เพราะที่นี่มีดอกไม้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี ดังนั้นจุดแรกในการมาเที่ยวดาลัดด้วยตัวเอง ก็ควรจะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ดาลัด ภายในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลายพันธุ์หลากสีสันตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นดอกกล้วยไม้ ที่มีทั้งกล้วยไม้สายพันธุ์แท้และลูกผสม กระซิบบอกนิดนึงว่ากล้วยไม้ตัดดอกทั้งหมดที่อยู่ในเวียดนามมาจากที่นี่ค่ะ นอกจากกล้วยไม้ก็ยังมีไฮเดรนเยีย โคมญี่ปุ่น และนอกจากไม้ดอกแล้ว สวนพฤกษศาสตร์ดาลัดยังมีไม้ประดับและไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ให้ได้ชมกันด้วยค่ะ
  ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 30,000 ดอง (45 บาท) , เด็ก 15,000 ดอง (23 บาท)
  เวลาเปิด-ปิด : 07.30-18.00 น. (เปิดทุกวัน)
• ดาลัด หุบเขาแห่งความรัก (Valley of love)
  หุบเขาแห่งความรักหรือที่ชาวเวียดนามเรียกทุงหลุงติงห์เอียว มีลักษณะเป็นหุบเขาซึ่งมีทะเลสาบอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเนินเขาเตี้ยๆ ที่ปกคลุมด้วยไม้สน ด้านบนจะเป็นสวนดอกไม้ เมื่อมองลงไปจะเห็นทะเลสาบสวยสดชื่นสุดๆ หากมีเวลาที่นี่จะมีรถจี๊บนำเที่ยวใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และยังมีบริการนั่งรถม้าเที่ยวชมรอบๆทะเลสาบด้วยนะคะ
  ค่าเข้าชม : 30,000 ดอง (45 บาท)
  เวลาเปิด-ปิด : 08.30-17.00 น.
• วัดตั๊กลัม (Trúc Lâm Temple)
  เป็นวัดพุทธที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาเฟืองฮว่าง ซึ่งต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไป และเดินขึ้นบันไดต่อแต่เมื่อไปถึงที่หมายแล้ว ภาพที่อยู่เบื้องหน้าจะทำให้คุณหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว เพราะภายในวัดนอกจากจะเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่สวยงามแล้ว สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือสวนดอกไม้ของวัดที่ผลิดอกบานสะพรั่ง โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นดอกไม้เมืองหนาว เช่นดอกไฮเดรนเยีย แถมเมื่อมองลงไปข้างล่างจะเห็นทะเลสาบสวรรค์สีฟ้าเข้ม เป็นภาพที่สวยงามสุดๆ เลยล่ะค่ะ
  ค่าเข้าชม : ค่าตั๋วเคเบิลคาร์ สำหรับผู้ใหญ่ เที่ยวเดียว/ไปกลับ ราคา 50,000 ดอง (76 บาท) / 70,000 ดอง (106 บาท), เด็ก 30,000 ดอง (45 บาท) /40,000 ดอง (61 บาท)
  เวลาเปิด-ปิด : เคเบิลคาร์เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.30-11.30และ 13.30-17.00 น.
• พระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได่ (Bao Dai’s Summer Palace)
  พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได่ เป็นที่ประทับของจักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม ซึ่งก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ในปี 2469 ตั้งแต่ครั้งมีพระชนม์เพียง 12 พรรษา เป็นที่ทราบกันดีว่าองค์เบ๋าได่นั้นมักจะใช้เวลาส่วนมากแสวงสำราญจากงานปาร์ตี้ในขณะประทับอยู่ที่เมืองดาลัด โดยพระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได่ เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2476 ประกอบด้วยอาคารอิมพีเรียล 3 หลัง โดยส่วนที่เรียกว่า Dinh 3 เป็นจุดที่โด่งดังและมีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุด แม้จะผ่านการการบูรณะมาแล้ว แต่ภายในอาคารก็ยังคงมีเครื่องเรือนจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้ในสภาพเดิม โดยส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมได้นั้น ประกอบด้วยบัลลังก์จักรพรรดิ ห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องอาหาร รวมถึงส่วนที่พักของพระมเหสีด้วย พร้อมกันนั้นผู้มาเยี่ยมเยือนยังจะได้ชมภาพถ่ายและรูปปั้นของราชวงศ์ที่ถูกจัดแสดงไว้อีกด้วย ทั้งนี้ภายในพระราชวังไม่อนุญาตให้บันทึกภาพภายในอาคาร
  ค่าเข้าชม : 15,000 ดอง (23 บาท)
  เวลาเปิด-ปิด : 07.00-17.00 น.
• เครซี่เฮ้าส์ (Crazy House) (Hang Nga Guest House and Art Gallery)
  เป็นเรื่องยากที่จะหานักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเมืองดาลัดแล้วไม่แวะไปเยือน เครซี่เฮาส์ บ้านตุ๊กตาและแกลลอรี่ศิลปะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่โด่งดังด้วยคอนเซ็ปต์อันแปลกแหวกแนว ในรูปแบบเหมือนกับบ้านต้นไม้ ผลงานการออกแบบของสถาปนิกDang Viet Nga โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2533 ภายในเครซี่เฮาส์ประกอบไปด้วยห้องขนาดเล็กกว่า 10 ห้อง ที่มีธีมแยกแตกต่างกันออกไป และที่นี่เราจะได้พบกับความประทับใจจากการเยี่ยมชมที่ต้องใช้เส้นทางทั้งอุโมงค์ บันได และยังจะได้พบกับเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจากคอนกรีต รวมทั้งหากเราโชคดีก็อาจจะได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับ Dang Viet Nga เจ้าของผลงานการออกแบบ เครซี่เอาส์ ด้วย
• น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfalls)
  น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากแต่มีความสวยงามและมีกิจกรรมต่าง ๆ ในนักท่องเที่ยวได้ทำกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่น้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตกที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในดาลัด ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์สุดตื่นเต้น เราขอแนะนำให้ลองไปนั่งรถราง (Roller Coaster) ลงไปชมตัวน้ำตกกันดู หลังจากชมน้ำตกกันจนอิ่มใจแล้ว หากท้องหิวบริเวณลานจอดรถก็มีอาหารไว้คอยบริการอีกด้วย
• น้ำตกฟงกัว (Pongour Falls)
  น้ำตกฟงกัว ได้รับการขนานนามให้เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในดาลัด มีความสูง 20 เมตร และกว้าง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนยังสามารถพบภาพของสายน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาอย่างมหาศาลในช่วงฤดูฝน นับเป็นความงดงามทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ชวนให้ประทับใจจริง ๆ

การเดินทางในเมืองดาลัด
ดาลัด ตั้งอยู่บนที่ราบสูงโอบล้อมไปด้วยทิวเขา การเช่าจักรยานปั่นจึงไม่ใช่วิธีที่ดีนักและไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะสถานที่แต่ละแห่งนั้นอยู่ไกลจากกันวิธีที่ดีที่สุดคือการใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างนั่งรถเที่ยวชมตัวเมือง หรือจะเช่าขี่เองซึ่งต้องใช้ความชำนาญเพราะรถค่อนข้างเยอะในเขตเมือง และนอกเมืองจะเป็นทางบนเขา

และนี่ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วนของดาลัดค่ะ รับรองว่าเที่ยวง่ายเหมาะกับคนที่จะมาเที่ยวดาลัดด้วยตัวเองสุดๆ สำหรับใครที่อยากมาเวียดนามแต่ยังไม่เคยมาสักที ลองมาเที่ยวดาลัตสักครั้งแล้วจะติดใจค่ะ และเพื่อไม่ให้ความตื่นเต้นลดลง เราไปรู้จักเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองของประเทศเวียดนามเลยค่ะ

มุยเน่ เมืองสุดฮิตของเวียดนาม

เมื่อมาดาลัดแล้ว แน่นอนค่ะว่าพลาดไม่ได้ที่จะต้องมามุยเน่ ใครหลายคนอาจจะคุ้นชื่อ "มุยเน่" ว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่อันที่จริงแล้ว มุยเน่ เป็นชื่อของเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนามเลยทีเดียว
เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของชายหาดทอดยาว สวยงาม และเงียบสงบ บริเวณชายหาดยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ร่มรื่นไปด้วยต้นมะพร้าวริมชายหาดมากมาย ชาวบ้านยังคงมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย มีอาชีพหลักคือการทำประมง ภาพของเรือหาปลาที่ออกล่องลอยไปกลางทะเลในรุ่งสาง และกลับมายังฝั่งในยามเย็น เป็นภาพที่ปรากฏที่นี่ทุกวัน ทำให้ชายทะเลมุยเน่มีบรรยากาศผ่อนคลาย น่าพักผ่อน ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่พักตากอากาศในฝันของชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ด้วยความที่เมืองมุยเน่มีภูมิประเทศที่โดดเด่น เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล เราจึงได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติเกิดขึ้นในเมืองแห่งนี้มากมาย ซึ่งที่กำลังโด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือเนินทรายที่กระจายตัวอยู่รอบเมืองมุยเน่ ซึ่งมีเฉดสีที่แตกต่างกันมากถึง 18 สี โดยทะเลทรายที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ "เนินทรายสีแดง" (Doi Cat) และ "เนินทรายสีขาว" (Bau Trang)

เนินทรายสีแดง มีขนาดกว้างใหญ่ทอดตัวยาวตั้งแต่ริมฝั่งทะเลเข้าไปในตัวแผ่นดิน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50 เฮกเตอร์ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียส เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมคือช่วงเช้า หรือช่วงหลังจาก 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะกระแสลมไม่แรงและแดดไม่ร้อนมากจนเกินไป
เนินทรายสีขาว ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองมุยเน่ ห่างไปประมาณ 20 กิโลเมตร มีทะเลสาบที่สวยงามขนาบข้างของเนินทราย เรียกว่า "ทะเลสาบ Bau Trang" ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่มากถึง 70 เฮกเตอร์ กว้างประมาณ 500 เมตร และลึกประมาณ 19 เมตร ภายในทะเลสาบเต็มไปด้วยดอกบัวสีสันสดใส น้ำมีความใสสะอาด เย็นฉ่ำ สามารถเช่าเรือไม้พายไปรอบ ๆ หรือจะเดินเล่นบริเวณรอบทะเลสาบก็ได้เช่นกัน

เมืองมุยเน่ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนจริง ๆ ซึ่งนอกจากจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ยังได้เห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่มีความสวยงามติดอันดับโลกอย่างทะเลทรายมุยเน่อีกด้วย เอาเป็นว่า ไปเวียดนามรอบนี้ คุณจะได้สัมผัสทั้งความสดชื่นจากเมืองดาลัด และความสวยงามจากเมืองมุยเน่ เรียกได้ว่า เป็นทริปต้อนรับปีใหม่ที่จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำตลอดไปอย่างแน่นอน

#vietjetair #vietnam #dalat #muine #newyeartrip #travel #bangkok #makalius