
หาดพัทยา ย่านท่องเที่ยวอันแสนเลื่องลือของชาวสยามประเทศ แหล่งรวมความบันเทิงทั้งชีวิตกลางวันที่ตามชายหาดคับคั่งไปด้วยผู้คนพร้อมกับทำกิจกรรมต่าง ๆ และเมื่อถึงยามราตรี ทั้งสองฝั่งของถนนก็จะยิ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวสายกลางคืน เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งแสงสีที่คึกคักไม่แพ้กรุงเทพฯ เลย แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีโรงแรมสุดหรูพร้อมด้วยบรรยากาศที่สงบและมาพร้อมกับความหรูหราและอยู่ติดหาด และตอนนี้เรากำลังอยู่กันที่
Mera Mare Hotel
สวัสดีชาว Makalius ทุกคน วันนี้แอดจะพามารีวิวโรงแรมสุดหรูที่มาพร้อมกับตกแต่งสไตล์ Boutique ที่เรียกได้ว่าหรูตั้งแต่ทางเข้ากันเลยกับ Mera Mare Hotel (โรงแรมเมร่ามาเร่) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหาดพัทยากลาง ซึ่งใช้เวลาจากกรุงเทพฯ ในการเดินทางมาแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และอีกเช่นเคย แอดจะพาไปรีวิวทุกซอกทุกมุมของโรงแรมแห่งนี้กันเพื่อให้ทุกคนพิจารณาว่าคุ้มค่าน่านอนขนาดไหน เราไปลุยกันเล้ย!
เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้า เปิดเข้าไปเจอกับล็อบบี้ ซึ่งในวินาทีแรกที่ก้าวขาเข้าไป แอดรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้อยู่ไทยเลยครับ เหมือนโดนวาร์ปไปอยู่โรงแรมหรูสักที่ในยุโรป ด้วยดีไซน์แบบ Boutique ที่ชวนให้สัมผัสถึงความหรูหราแบบเกินต้าน ก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่เข้าไป Check-in เลย นอกจากนี้ในโซนของการรองรับแขกก็ยังกว้างขวาง สามารถนั่งพักระหว่างรอเข้าพักได้ด้วย แถมสุดโถงของล็อบบี้ยังมี Mini Bar ไว้สำหรับนั่งชิลล์ได้ด้วยน้า
หลังจากที่แอดได้ทำการเช็คอินเรียบร้อย ทีนี้ก็มาถึงคิวของห้องพักกันเลย ซึ่งห้องพักที่ทางลูกค้า Makalius จะได้รับนั้นมี 2 ห้องให้เลือกกัน ได้แก่ห้อง Deluxe Sea View และ Deluxe Garden View ที่มีดีไซน์เดียวกันแต่จะแตกต่างในส่วนของวิวนอกห้องที่จะเป็นวิวทะเลและสวน และจะมีเตียงแบบ Twin และ Double ให้เลือกกันน้า ในส่วนของดีไซน์ถือว่าหรูหราและมีเอกลักษณ์มากด้วย โดยส่วนตัวแอดชอบการใช้สีและการตกแต่งไลฟ์สไตล์ของโรงแรมแห่งนี้มากเลย และที่สำคัญเตียงนอนสบายมาก ๆ
พอถึงช่วงบ่ายหน่อย ๆ ทาง Mera Mare Hotel ก็มีชุด Afternoon Tea เตรียมไว้ให้สำหรับชาว Makalius ด้วยน้า โดยเราจะสามารถเลือกได้สองชุดระหว่างใหญ่กับเล็ก ซึ่งจะแตกต่างกันในส่วนของเมนูและปริมาณ อ้อแล้วก็เราสามารถเลือกเวลาได้เองด้วยนะครับว่าจะให้เขามาเสิร์ฟตอนเวลาไหน และที่สำคัญ บริเวณที่จะใช้เสิร์ฟก็จะแตกต่างกันไป โดยชุดใหญ่นั้นจะมี Highlight ตรงที่เขาจะเสิร์ฟมาในสไตล์ของ Floating Tray เป็นดีไซน์แบบตะกร้าสาน เสิร์ฟให้เราได้ทานกันในสระน้ำ เรียกได้ว่าหรูหรามีสไตล์สุด ๆ จัดเต็มด้วยเมนูหลากหลายทั้งช็อคโกแลต สโคน เค้ก แซนด์วิช ผลไม้ เสิร์ฟพร้อมชาไทยและชาเขียวนมเย็น
ในส่วนของเซ็ตเล็กนั้นก็จะมาเสิร์ฟด้วยเค้ก เบอร์เกอร์ แซนด์วิช สโคน และปิดท้ายที่ชาฝรั่งแบบร้อน และจะเสิร์ฟในห้องอาหารสุดหรูหราของทางโรงแรมให้นั่งชิลล์พร้อมแอร์เย็น ๆ อีกด้วยน้า หลังจากทานเซ็ตชายามบ่ายเสร็จ กระเถิบมาอีกนิดนึงที่เป็นโซนในสุดที่เป็นคาเฟ่ Pastry Addiction ซึ่งจะอยู่ติดทางด้านหน้าของโรงแรม มีทั้งเค้กและไอศกรีมให้ทุกคนได้เลือกเยอะแยะเลยทุกคน รับรองว่าสายขนมหวานมาที่นี่ฟินแน่นอนบอกเลย !!!!!
หลังจากที่อิ่มอร่อยกับเซ็ตของหวานกันแล้ว ใครที่สนใจทานเหล็กต่อทางโรงแรมก็มี Facility อย่างยิมฟิตเนสขนาดย่อมไว้รองรับลูกค้าทุกคนด้วยจ้า โดยจะอยู่ติดสระว่ายน้ำเลย ซึ่งจะอยู่บนชั้น 2 ขึ้นลิฟต์จากล็อบบี้ออกไปทางขวาก็จะถึงเลย แม้ว่าจะเล็กแต่อุปกรณ์ภายในที่มีเตรียมไว้ให้ แอดบอกเลยว่าครบคัน ทั้งลู่วิ่ง จักรยานสำหรับนั่งปั่นหรือแบบยืน ดัมเบลยกน้ำหนักตั้งแต่เบา ๆ ไปจนถึงลูกใหญ่สำหรับสาย Hardcore ไป Cardio กันให้เหงื่อชุ่มเพื่อเบิร์นของหวานที่กินกันเข้าไปกันได้เล้ยยย
ตกช่วงยามเย็นของหาดพัทยาเราสามารถเดินข้ามถนนจากหน้าโรงแรมไปได้เล้ย สามารถไปเดินเล่นถ่ายรูปชิลล์ ๆ พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วย นอกจากนี้หาดก็ยังสะอาดมาก ๆ ขอชมทางเมืองพัทยาจริง ๆ ที่จัดการปัญหาขยะที่หน้าหาดให้หมดไปได้อย่างหมดจด ทุกคนที่นี่เขาดูแลสภาพแวดล้อมของเมืองได้ดีจริง ๆ ไม่เคยเห็นหาดพัทยาสะอาดขนาดนี้มาก่อนนับตั้งแต่ตอนแอดเป็นเด็ก แถมด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติเดินกันไปมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แอดขอบอกเลยว่าบรรยากาศเหมือนเดินเล่นที่ริมหาด Miami ที่อเมริกาเลยครับทุกคน และหลังจากนั้นแอดกับทีมก็แยกย้ายกันไปหาของกินก่อนจะไปเข้านอนกันดีกว่า บอกเลยว่าตลอดแนวหาดนี่ร้านอาหารเพียบ
มาต่อกันในส่วนของอาหารเช้ากันเลย บรรยากาศในตอนเช้าของที่นี่แอดชอบมาก ๆ เพราะด้วยการตกแต่งสไตล์ Boutique ที่หรูหราอยู่แล้ว บวกกับการจัดห้องอาหารและแสงไฟที่ตัดลงมาก็ช่วยเสริมให้อาหารดูน่าทานขึ้นไปอี๊กกกก บอกเลยว่าน่าทานคูณร้อย แล้วในส่วนที่แอดประทับใจมาก ๆ นอกจากไลน์บุฟเฟต์ของที่นี่แล้ว ก็ต้องขอยกให้เจ้าเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ มีให้เลือกตั้งแต่ กาแฟดำ ม็อคค่า คาปูชิโน่ และที่ชอบเป็นการส่วนตัวคือเครื่องนี้มีเมนูช็อคโกแลตร้อนให้เลือกด้วยนะ แถมวิธีใช้เครื่องก็ไม่ยาก เดินไป เอาแก้ววาง กดเลือกเมนู รอเครื่องทำให้ จบ ดีงามมาก ๆ เล้ย
ในส่วนของไลน์บุฟเฟต์นั้นก็มีให้เลือกทานกันแบบจุใจ เติมพลังงานกันให้เต็มถังกันก่อนออกเดินทาง ไล่กันตั้งแต่ของคาวที่มีทั้ง ติ่มซำขนมจีบซาลาเปา เบค่อน ไส้กรอก แฮม สตูว์ ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศ มันบดทอดกรอบ ๆ ฟีลเหมือน Hash brown ชิ้นขนาดเบิ้ม ๆ จับมาฟิวชั่นกันเป็น English Breakfast หรือ American Breakfast ซึ่งเราสามารถ Mix and Match ได้เลยตามความชอบของแต่ละคนน้า และที่แอดชอบมาก ๆ คือเมนูไข่ของที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายโดยเราสามารถสั่งกับเชฟที่ห้องอาหารได้เลยจ้า ไม่ว่าจะเป็น ไข่ดาว ไข่ขยี้ ไข่ต้ม ไข่ลวก ออมเล็ต และ Egg Benedict โอ้มายก๊อดดด แล้วถ้าใครอยากตบท้ายด้วยของหวานก็มีทั้งซีเรียล วาฟเฟิล โยเกิร์ต และแพนเค้กทำใหม่ ๆ จากกระทะร้อน ๆ พร้อมทั้งมีให้เลือกระหว่าง Syrup และน้ำผึ้ง บอกเลยว่าเช้านี้ทานกันแบบจัดเต็มจุก ๆ กันไปเล้ย
เป็นยังไงกันบ้างทุกคน กับโรงแรมสุดหรูสไตล์ Boutique ได้ฟีลแบบมาเที่ยวเมืองนอกที่ราคาสบายกระเป๋าไม่หนักหน่วงจนเกินไป แถมบรรยากาศก็ดี ห้องก็นอนสบายพร้อมกับเซ็ทอาหารเช้าและบ่ายแบบจัดเต็ม สำหรับแอดแค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับกับ Mera Mare Hotel - พัทยากลาง รอบหน้าแอดจะพาไปรีวิวโรงแรมไหนรีสอร์ทไหนอีกในเส้นทางพัทยานี้ก็รอติดตามกันได้เลยนะครับ รีวิวจะคลอดตาม ๆ กันมาอย่างไม่ขาดสายแน่นอน อย่าลืมติดตามเพจและเว็บไซต์ของ Makalius ไว้กันด้วยน้า และแน่นอน ที่เห็นมาทั้งหมด จะได้ครบทั้งหมดแบบนี้ เฉพาะโปรของ Makalius เท่านั้นนะ แอดไปรีวิวมาเอง ไม่จกตาแน่นอนจ้าาาา